เทรดสั้น เทรดยาว เลือกแบบไหนดี ข้อดี ข้อเสียเป็นยังไง?

เทรดสั้น เทรดยาว คืออะไร ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจแบบง่ายๆ กันก่อน จะได้คุยกันในทิศทางเดียวกัน

สำหรับผมแล้ว การเทรดสั้น คือ การถือ Order ในคู่เงินใดคู่เงินหนึ่ง ซึ่งมีระยะการถือสักประมาณ ไม่เกิน 1,000 จุด อาจจะใช้เวลาในการถือ Order ไม่นานมากนัก อย่างต่ำๆ
สักไม่เกิน 1 วัน

ต่อมา การเทรดยาว คือ การถือ Order ในคู่เงินใดคู่เงินหนึ่ง มีระยะการถือสักประมาณ 5,000 จุด ขึ้นไป อาจจะค่อนข้างใช้เวลาในการถือ Order นานสักหน่อย ประมาณ 1-2 เดือนขึ้นไป

สังเกตุว่า ผมจะให้นิยาม ของแนวการเทรดจากจำนวนระยะทางที่เราเทรดนั่นเอง (นิยามจะต่างกันไปในแต่ละบุคคล)

แล้วเทรดสั้น-ยาว เลือกแบบไหนดี?

เอาล่ะ มาถึงคำถามที่ทุกคนอยากรู้กันแล้ว ผมจะแนะนำแบบง่ายๆ ตามนี้ครับ

ถ้าคุณต้องการเทรดสั้น ลองเช็คตัวเองก่อนว่ามีสิ่งเหล่านี้ที่ผมจะบอกเป็นข้อๆ ต่อไปนี้ไหม
– ชอบดูกราฟบ่อยๆ
– มีเวลาในการเทรดระหว่างวันเยอะ
– ชอบทำกำไรแบบเร็วๆ สั้นๆ
– ชอบเพิ่มความเสี่ยงขึ้นมาหน่อย

ถ้าคุณต้องการเทรดยาว ลองเช็คตัวเองก่อนว่ามีสิ่งเหล่านี้ที่ผมจะบอกเป็นข้อๆ ต่อไปนี้ไหม
– ไม่ชอบดูกราฟบ่อยๆ
– ไม่ค่อยมีเวลาในการเทรดระหว่างวันเยอะ (ต้องทำงานประจำ)
– ชอบทำกำไรแบบไม่เร่งรีบ เน้นเก็บออม
– เน้นความเสี่ยงต่ำ

สรุปให้สั้นๆ เทรดสั้นและเทรดยาว ส่วนตัวคิดว่ากำไรที่ได้ไม่ค่อยหนีกันเท่าไหร่นัก เพราะเทรดสั้นจะถือในระยะทางที่น้อย จึงต้องใช้ Lot สูงขึ้นมาหน่อยเพื่อทำกำไรสั้นๆ ส่วนเทรดยาวจะถือในระยะทางที่เยอะ Lot ที่ใช้จะต้องต่ำลงมา เนื่องจากต้องทน การสวิงของกราฟ ใน Time frame ใหญ่นั่นเอง ชอบแบบไหนก็เลือกเทรดได้เลยไม่ว่ากัน

แต่แนะนำสำหรับมือใหม่ ไม่รู้จะเทรดแบบไหนดี ผมแนะนำว่าลองเทรดเป็นเทรดยาวก่อน เพราะฝึกการดูภาพรวมตลาดว่าไปทางไหนและวางแผนจุดเข้าได้ดีกว่าครับ ไปลุยกัน